วันพุธที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2559
วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2558
ท่านที่ปรึกษาระดับสูง ด้านกฏหมาย D-HOUSE GROUP นาย อธิกิจ เจษฏาญานเมธา
ท่านที่ปรึกษาระดับสูง ด้านกฏหมายและทนายความ D-HOUSE GROUP นาย อธิกิจ เจษฏาญานเมธา
กฏหมายสิ่งแวดล้อม
กฏหมายสิ่งแวดล้อมเป็นกฏหมายที่มีคุณลักษณะพิเศษกล่าวคือจะความเกี่ยวพันกับ
ศาสตร์ในสาขาอื่นๆอย่างใกล้ชิด
ซึ่งได้แก่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี เศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ ฯลฯ
กฏหมายสิ่งแวดล้อมจึงมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทุกชนิดครอบ
คลุมทั้งสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้น
จุดมุ่งหมายที่สำคัญของสิ่งแวดล้อมของไทยคือ
เพื่อคุ้มครองและสงวนรักษาไว้ซึ่งระบบนิเวศของธรรมชาติรวทั้งพลเมืองของชาติ
จากกิจกรรมใดๆที่อาจมีผลกระทบต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศ
พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.
๒๕๓๕
พระ
ราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕
ถือได้ว่าเป็นกฏหมายแม่บทที่ใช้ในการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันกล่าวคือ
มีบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการจัดการและบำรุงรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างรอบด้าน
ครอบคลุมถึงการจัดการปัญหามลพิษทุกรูปแบบะสอดประสานกันอย่างเป็นระบบ
นอกจากนี้
พระราชบัญญัติฉบับบนี้ยังได้มีการนำหลักการใหม่ๆมาใช้ในการจัดการสิ่งแวด
ล้อม
อาทิเช่น หลักผู้ก่อมลพิษต้องจ่าย
การยอมรับบทบาทของประชาชนและองค์การพัฒนาเอกชนในการจัดการสิ่งแวดล้อม
การจัดตั้งกองทุนสิ่งแวดล้อม การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ฯลฯ
รวมทั้งหลักการที่สำคัญอีกหลายประการดังที่ปรากฏในหมายเหตุท้ายพระราช
บัญญัติดังกล่าว
ดังนี้
๑) ส่งเสริมประชาชนและองค์กรเอกชนให้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม
๒) จัดระบบการบริหารงานด้านสิ่งแวดล้อมให้เป็นไตามหลักการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม
๓) กำหนดอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและราชการส่วนท้องถิ่นให้เกิดการประสานงาน และมีหน้าที่ร่วมกันในการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมและกำหนดแนวทางปฏิบัติในส่วนที่ไม่มีหน่วยงานใดรับผิดชอบโดยตรง
๔) กำหนดมาตรการควบคุมมลพิษด้วยการจัดให้มีระบบบำบัดอากาศเสีย ระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบกำจัดของเสีย และเครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับมลพิษ
๕) กำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำให้เกิดมลพิษให้เป็นไปโดยชัดเจน
๖) กำหนดให้มีมาตรการส่งเสริมด้านกองทุนและความช่วยเหลือด้านต่างๆ เพื่อเป็นการจูงใจให้มีการยอมรับที่จะปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
๑) ส่งเสริมประชาชนและองค์กรเอกชนให้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม
๒) จัดระบบการบริหารงานด้านสิ่งแวดล้อมให้เป็นไตามหลักการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม
๓) กำหนดอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและราชการส่วนท้องถิ่นให้เกิดการประสานงาน และมีหน้าที่ร่วมกันในการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมและกำหนดแนวทางปฏิบัติในส่วนที่ไม่มีหน่วยงานใดรับผิดชอบโดยตรง
๔) กำหนดมาตรการควบคุมมลพิษด้วยการจัดให้มีระบบบำบัดอากาศเสีย ระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบกำจัดของเสีย และเครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับมลพิษ
๕) กำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำให้เกิดมลพิษให้เป็นไปโดยชัดเจน
๖) กำหนดให้มีมาตรการส่งเสริมด้านกองทุนและความช่วยเหลือด้านต่างๆ เพื่อเป็นการจูงใจให้มีการยอมรับที่จะปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
ความรับผิดในคดีสิ่งแวดล้อม
ความรับผิดทางแพ่ง
ใน การเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งโดยทั่วไปนั้น ผู้เสียหายจะต้องพิสูจน์ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างการกระทำกับความเสีย หายที่ได้รับว่ามีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันหรือไม่อน่างไรซึ่งเป็นแนวคิด จากทฤษฎีที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล ทฤษฎีนี้ได้ใช้พิสูจน์ความรับผิดทางละเมิดโดยพิจารณาถึงเงื่อนไขและความ เหมาะสมชองเหตุและผลของการกระทำนั้นเป็นส่วนประกอบ ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้เสียหายที่จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าข้อกล่าวอ้างของตน เป็นความจริงและความเสียหายที่ได้รับเป็นผลโดยตรงจากการกระทำโดยจงใจหรือ ประมาทเลินเล่อของจำเลยในคดีนั้น ซึ่งในคดีสิ่งแวดล้อมการที่จะพิสูจน์ให้ได้ครบองค์ประกอบเช่นนั้นถือเป็น ภาระและความยากลำบากอย่างยิ่ง
ใน การเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งโดยทั่วไปนั้น ผู้เสียหายจะต้องพิสูจน์ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างการกระทำกับความเสีย หายที่ได้รับว่ามีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันหรือไม่อน่างไรซึ่งเป็นแนวคิด จากทฤษฎีที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล ทฤษฎีนี้ได้ใช้พิสูจน์ความรับผิดทางละเมิดโดยพิจารณาถึงเงื่อนไขและความ เหมาะสมชองเหตุและผลของการกระทำนั้นเป็นส่วนประกอบ ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้เสียหายที่จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าข้อกล่าวอ้างของตน เป็นความจริงและความเสียหายที่ได้รับเป็นผลโดยตรงจากการกระทำโดยจงใจหรือ ประมาทเลินเล่อของจำเลยในคดีนั้น ซึ่งในคดีสิ่งแวดล้อมการที่จะพิสูจน์ให้ได้ครบองค์ประกอบเช่นนั้นถือเป็น ภาระและความยากลำบากอย่างยิ่ง
ความรับผิดทางอาญา
มาตรา การลงโทษทางอาญาแก่ผู้กระทำผิดในคดีสิ่งแวดล้อมนั้นจะมีวัตถุประสงค์ที่แตก ต่างออกไปตามลักษณะของโทษ กล่าวคือ โทษประหารชีวิตและจำคุกมีวัตถุประสงค์ที่จะตัดโอกาสผู้กระทำความผิดออกไปจาก สังคมมิให้มีโอกาสได้กระทำผิดเช่นนั้นอีก รวมทั้งเพื่อป้องปราบและยับยั้งบุคคลอื่นมิให้กล้าที่จะกระทำความผิดเช่น เดียวกันนั้น ส่วนการริบทรัพย์สินนั้นจะมีวัตถุประสงค์เป็นการป้องกันและตัดโอกาสผู้กระทำ ผิดที่จะใช้อุปกรณ์และเครื่องมือเหล่านั้นในการกระทำความผิด กล่าวโดยรวมแล้วจะเห็นได้ว่าวัตถุประสงค์ของการลงโทษผู้กระทำความผิดในคดี สิ่งแวดล้อมนั้นจะมีลักษณะเป็นการป้องกันโดยการยับยั้งผู้กระทำความผิดให้ เกิดความเกรงกลัวและตัดโอกาสมิให้ได้รับความสะดวกที่จะกระทำความผิด เนื่องจากสิ่งแวดล้อมหากถูกทำลายไปแล้วไม่อาจฟื้นฟูให้กลับคืนสู่สภาพที่ดี ดังเดิมได้ ดังนั้นดารป้องกันปัญหาจึงเป็นมาตรการที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
มาตรา การลงโทษทางอาญาแก่ผู้กระทำผิดในคดีสิ่งแวดล้อมนั้นจะมีวัตถุประสงค์ที่แตก ต่างออกไปตามลักษณะของโทษ กล่าวคือ โทษประหารชีวิตและจำคุกมีวัตถุประสงค์ที่จะตัดโอกาสผู้กระทำความผิดออกไปจาก สังคมมิให้มีโอกาสได้กระทำผิดเช่นนั้นอีก รวมทั้งเพื่อป้องปราบและยับยั้งบุคคลอื่นมิให้กล้าที่จะกระทำความผิดเช่น เดียวกันนั้น ส่วนการริบทรัพย์สินนั้นจะมีวัตถุประสงค์เป็นการป้องกันและตัดโอกาสผู้กระทำ ผิดที่จะใช้อุปกรณ์และเครื่องมือเหล่านั้นในการกระทำความผิด กล่าวโดยรวมแล้วจะเห็นได้ว่าวัตถุประสงค์ของการลงโทษผู้กระทำความผิดในคดี สิ่งแวดล้อมนั้นจะมีลักษณะเป็นการป้องกันโดยการยับยั้งผู้กระทำความผิดให้ เกิดความเกรงกลัวและตัดโอกาสมิให้ได้รับความสะดวกที่จะกระทำความผิด เนื่องจากสิ่งแวดล้อมหากถูกทำลายไปแล้วไม่อาจฟื้นฟูให้กลับคืนสู่สภาพที่ดี ดังเดิมได้ ดังนั้นดารป้องกันปัญหาจึงเป็นมาตรการที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ความรับผิดทางปกครอง
มาตรการ
ทางปกครอง ได้แก่
ระบบทะเบียนและระบบการอนุญาตดำเนินการต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขาของสิ่ง
แวดล้อมและอุตสาหกรรม
มาตรการทางปกครองเพื่อการคุ้มครองความเสียหายทางสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ได้มี
การดำเนินการภายใต้การควบคุมขององค์กรเฉพาะที่มีอำนาจในระดับท้องถิ่น
ระดับภูมิภาค และในระดับชาติ
โดยทีการจัดองค์กรและรูปแบบการดำเนินงานที่แตกต่างกันๆไป
โดยที่ในบางประเทศจะดำเนินการโดยองค์กรเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อมจากส่วนกลางควบ
คุมทุกภาคส่วนของสิ่งแวดล้อมและกิจกรรมทางอุตสาหกรรมในท้องถิ่น
_____________________________________________________________________________________________
อ้างอิง
อุดมศักดิ์ สินธิพงษ์.
กฎหมายว่าด้วยความเสียหายทางสิ่งแวดล้อม. กรุงเทพฯ:
สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อุดมศักดิ์ สินธิพงษ์. กฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม.
กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์วิญญูชน.
D-House GROUP DHG01.BLOGSPOT.COM
DHG01.BLOGSPOT.COM
วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2558
บาป อำเภอพรหมพิราม ที่จารึกในสารคดี ภาพยนต์ นิยาย วันนี้ มาที่ จ.ตาก (พรหมพิราม 2)
อำเภอพรหมพิราม
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากเอกสารอ้างอิงหรือแหล่งข้อมูล โปรดช่วยพัฒนาบทความนี้โดยเพิ่มแหล่งข้อมูลน่าเชื่อถือ เนื้อหาที่ไม่มีการอ้างอิงอาจถูกคัดค้านหรือนำออก |
|
เนื้อหา
ที่ตั้งและอาณาเขต
อำเภอพรหมพิรามห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 30 กิโลเมตร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัด มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียง ดังนี้- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอสวรรคโลก (จังหวัดสุโขทัย) และอำเภอพิชัย (จังหวัดอุตรดิตถ์)
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอวัดโบสถ์
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอเมืองพิษณุโลกและอำเภอบางระกำ
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอกงไกรลาศ อำเภอเมืองสุโขทัย และอำเภอศรีสำโรง (จังหวัดสุโขทัย)
การแบ่งเขตการปกครอง
การปกครองส่วนภูมิภาค
อำเภอพรหมพิรามแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 12 ตำบล 120 หมู่บ้าน ได้แก่1. | พรหมพิราม | (Phrom Phiram) | 15 หมู่บ้าน | 7. | ตลุกเทียม | (Taluk Thiam) | 8 หมู่บ้าน | ||||||
2. | ท่าช้าง | (Tha Chang) | 13 หมู่บ้าน | 8. | วังวน | (Wang Won) | 10 หมู่บ้าน | ||||||
3. | วงฆ้อง | (Wong Khong) | 11 หมู่บ้าน | 9. | หนองแขม | (Nong Khaem) | 10 หมู่บ้าน | ||||||
4. | มะตูม | (Matum) | 6 หมู่บ้าน | 10. | มะต้อง | (Matong) | 11 หมู่บ้าน | ||||||
5. | หอกลอง | (Ho Klong) | 7 หมู่บ้าน | 11. | ทับยายเชียง | (Thap Yai Chiang) | 6 หมู่บ้าน | ||||||
6. | ศรีภิรมย์ | (Si Phirom) | 12 หมู่บ้าน | 12. | ดงประคำ | (Dong Prakham) | 11 หมู่บ้าน |
การปกครองส่วนท้องถิ่น
ท้องที่อำเภอพรหมพิรามประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 14 แห่ง ได้แก่- เทศบาลตำบลพรหมพิราม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลพรหมพิราม (เฉพาะบางส่วนของหมู่ที่ 1, 2 และ 12)
- เทศบาลตำบลวงฆ้อง ครอบคลุมพื้นที่ของตำบลวงฆ้อง (เฉพาะหมู่ที่ 1 และบางส่วนของหมู่ที่ 6) และตำบลมะต้อง (เฉพาะบางส่วนของหมู่ที่ 6)
- องค์การบริหารส่วนตำบลพรหมพิราม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลพรหมพิราม (นอกเขตเทศบาลตำบลพรหมพิราม)
- องค์การบริหารส่วนตำบลท่าช้าง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลท่าช้างทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลวงฆ้อง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลวงฆ้อง (นอกเขตเทศบาลตำบลวงฆ้อง)
- องค์การบริหารส่วนตำบลมะตูม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลมะตูม
- องค์การบริหารส่วนตำบลหอกลอง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหอกลองทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลศรีภิรมย์ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลศรีภิรมย์ทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลตลุกเทียม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลตลุกเทียมทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลวังวน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลวังวนทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลหนองแขม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองแขมทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลมะต้อง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลมะต้องทั้งตำบล (นอกเขตเทศบาลตำบลวงฆ้อง)
- องค์การบริหารส่วนตำบลทับยายเชียง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลทับยายเชียงทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลดงประคำ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลดงประคำทั้งตำบล
|
บทความเกี่ยวกับเขตการปกครองของไทยนี้ยังเป็นโครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยเพิ่มข้อมูล ดูเพิ่มที่ สถานีย่อย:ประเทศไทย
รายการเลือกการนำทาง
มีส่วนร่วม
เครื่องมือ
พิมพ์/ส่งออก
- หน้านี้แก้ไขล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2558 เวลา 09:45 น.
- อนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ แบบแสดงที่มา-อนุญาตแบบเดียวกัน และอาจมีเงื่อนไขเพิ่มเติม
ดูรายละเอียดที่ ข้อกำหนดการใช้งาน
Wikipedia® เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของมูลนิธิวิกิมีเดีย องค์กรไม่แสวงผลกำไร - ติดต่อเรา
จังหวัดตาก
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สำหรับตาก ในความหมายอื่น ดูที่ ตาก (แก้ความกำกวม)
|
เนื้อหา
ประวัติศาสตร์
เมืองตากในอดีตเป็นเมืองที่มีชาวมอญอยู่มาก่อน ดังมี หลักฐานศิลปมอญปรากฏอยู่ที่อำเภอบ้านตาก มีประวัติความเป็นมาเก่าแก่ และเป็นหนึ่งในหัวเมืองที่มีอายุขัยเกินกว่าสองพันปีขึ้นไป เมื่อมีการอพยพของชนชาติไทยจากลุ่มน้ำแยงซีเกียงตอนใต้ ลงมาตามแนวลำน้ำดง (ลำน้ำสาละวิน) มีพวกหนึ่งได้ข้ามลำน้ำสาละวิน ผ่านลุ่มน้ำเมยหรือแม่น้ำต่องยินเข้ามาทางช่องเขาด้านอำเภอแม่สอดและมาถึงบริเวณที่ปัจจุบันเรียกว่า “เมืองตาก”ผู้นำกลุ่มคนไทยที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานที่เมืองตากในยุคนั้น ได้ตั้งตนเป็นกษัตริย์ปกครองสืบทอดต่อเนื่องกันมาจนถึงปี พ.ศ. 560 รัชสมัยพระเจ้าสักดำ ซึ่งเป็นกษัตริย์เมืองตากที่ยิ่งใหญ่มาก มีอาณาเขตที่อยู่ในอำนาจแผ่ไปจนจรดทะเลอันดามันดังมีบันทึกในพงศาวดารเหนือกล่าวว่าในรัชสมัยพระเจ้าสักดำนั้นเมืองตากมีการค้าขายกับเมืองอินเดียด้วย
เมืองตากคงจะเสื่อมลงในช่วงพุทธศตวรรษที่ 10 พระยากาฬวรรณดิสผู้เป็นกษัตริย์เมืองตากที่อพยพมาจาก ตอนใต้ของลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียง ได้โยกย้ายไปสร้างราชธานีขึ้นใหม่ที่เมืองละโว้ทางตอนใต้ของเมืองตากลงไปอีก
มีบางยุคเมืองตากถูกทอดทิ้ง กลายเป็นเมืองร้างดังในพงศาวดารเหนือได้ กล่าวถึงการเสด็จทางชลมารคของพระนางจามเทวี พระราชธิดากษัตริย์ละโว้ (ระยากาฬวรรณดิส) เพื่อไปปกครองแคว้นหริภุญไชย (ลำพูน) ในราว พ.ศ. 1176 โดยทาง ลำน้ำปิง พระนางจามเทวีขึ้นไปสำรวจบนฝั่งแม่น้ำพบร่องรอยกำแพงเมืองเก่าๆ ถูกทิ้งร้าง จึงโปรดให้สร้างเป็นบ้านเมืองใหม่ชื่อว่า “เมืองตาก”
ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 1805 ขุนสามชนเจ้าเมืองฉอดได้ยกทัพ มาประชิดเมืองตาก ซึ่งเป็นเมืองชายแดนของกรุงสุโขทัย พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ทรง จัดกองทัพออกไปรบ โดยมีพระราชโอรสองค์เล็กซึ่งมีพระชนมายุได้ 19 พรรษา ติดตามไปด้วย กองทัพ ทั้งสองฝ่ายปะทะกันที่บริเวณเชิงดอยนอกเมืองตากประมาณกิโลเมตรเศษ ราชโอรสองค์เล็กได้ทรงชนช้าง กับขุนสามชนกระทำยุทธหัตถีกัน ขุนสามชนสู้ไม่ได้แตกพ่ายไป ต่อมาภายหลังทรงพระนามว่า “พ่อขุนรามคำแหงมหาราช” และได้โปรดสร้างเจดีย์ขึ้นเป็นที่ระลึกถึงชัยชนะในการทำยุทธหัตถีครั้งนั้น องค์หนึ่งเป็นศิลปแบบสุโขทัย ซึ่งเจดีย์ยุทธหัตถีนี้อยู่ที่วัดพระบรมธาตุ อำเภอบ้านตาก ห่างจากตัวเมืองไปทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิงราว 31 กิโลเมตร
ต่อมาในแผ่นดินมหาธรรมราชา ได้ย้ายเมืองตากลงมาทางตอนใต้ตามลำน้ำปิง ไปตั้งอยู่ที่ป่ามะม่วง ฝั่งตะวันตก ของแม่น้ำปิง ซึ่งอยู่ในเขตตำบลป่ามะม่วง อำเภอเมืองตากในปัจจุบัน
เมืองตากที่ย้ายมาตั้งใหม่นี้มิใช่เมืองหน้าด่าน สำหรับป้องกันกองทัพพม่าที่จะยกเข้ามาทางด่านแม่ละเมาเท่านั้น แต่ยังเป็นเมืองที่กองทัพไทยใช้เป็นที่ชุมนุมพลในเวลา ที่จะยกทัพไปตีเมืองเชียงใหม่อีกด้วย ในรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระนารายณ์มหาราช และสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีได้เสด็จมาชุมนุมกองทัพที่เมืองตากนี้ทุกพระองค์
โดยเฉพาะสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ก่อนที่พระองค์จะขึ้นครองราชสมบัตินั้น พระองค์ได้รับแต่งตั้งจากสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อัมรินทร์ ให้เป็นข้าหลวงเชิญท้องตราราชสีห์ ไปชำระความหัวเมืองฝ่ายเหนือและต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นหลวงยกกระบัตร เมืองตาก ปลัดเมืองตาก พระยาวชิรปราการแล้วปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดินโดยลำดับ
กล่าวโดยสรุป จังหวัดตากเป็นจังหวัดที่มีความเป็นมาในประวัติศาสตร์ ควรค่าแก่การสนใจ เป็นเมืองที่พระมหากษัตริย์ในอดีตได้เสด็จมาชุมนุมกองทัพที่เมืองตากนี้แล้วถึง 4 พระองค์ คือ พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงชนช้างกับขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงประกาศอิสรภาพ ณ เมืองแครง และทรงยกทัพกลับราชอาณาจักรไทยโดยผ่านดินแดนเมืองตากเป็นแห่งแรก สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงนำทัพไปตีหัวเมืองฝ่ายเหนือ และได้สร้างวัดพระนารายณ์ที่เชิงสะพานกิตติขจรปัจจุบัน และสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเคยได้รับพระบรมราชโองการแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองตาก และเป็นผู้กอบกู้เอกราชของชาติไทยจากพม่า ครั้งที่ 2
อาณาเขตติดต่อ
ตามภูมิศาสตร์ที่ตั้ง จังหวัดตากเป็นจังหวัดที่อยู่ในภาคตะวันตก มีพื้นที่ติดต่อกับจังหวัดอื่น ๆ มากที่สุดในประเทศไทย ประกอบด้วย 9 จังหวัด ดังนี้- ทางเหนือ ติดกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง
- ทางตะวันออก ติดกับจังหวัดสุโขทัย กำแพงเพชร นครสวรรค์ และอุทัยธานี
- ทางใต้ ติดกับจังหวัดกาญจนบุรี
- ทางตะวันตก ติดกับรัฐกะเหรี่ยง ประเทศพม่า โดยมีแม่น้ำสายสำคัญแบ่งเขตแดนระหว่างไทยกับพม่า ซึ่งก็คือ แม่น้ำเมย
หน่วยการปกครอง
อำเภอ
การปกครองแบ่งออกเป็น 9 อำเภอ 63 ตำบล 493 หมู่บ้านเทศบาล
อำเภอเมืองตาก อำเภอบ้านตาก อำเภอสามเงา |
อำเภอแม่ระมาด อำเภอท่าสองยาว อำเภอแม่สอด |
อำเภอพบพระ อำเภออุ้มผาง อำเภอวังเจ้า |
สถานที่ท่องเที่ยว
- อุทยานแห่งชาติลานสาง
- น้ำตกทีลอซู
- เจดีย์ยุทธหัตถีพ่อขุนรามคำแหง
- ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน
- วนอุทยานแห่งชาติเขาพระบาท
- น้ำพุร้อนแม่กาษา
- ถ้ำแม่อุสุ
- ดอยสอยมาลัย
- วัดดอนแก้ว
- ศาลเจ้าพ่อพระวอ
- เมืองเก่าท่าสองยาง
- อุทยานประวัติศาตร์เมืองตากเก่า
- น้ำพุร้อนห้วยน้ำนัก
- ไร่กุหลาบ
- วัดมงคลคีรีเขต
- พระธาตุหินกิ่วที่ดอยดินจี่
- วัดพระบรมธาตุบ้านตาก
- คอกช้างเผือก
- วัดดอยข่อยเขาแก้ว
- ศาลสมเด็จพระนเรศวร
- ศาลเจ้าพ่อขุนสามชน
- วัดชุมพลคีรี
- เนินพิศวง
- วัดพระพุทธบาทดอยโล้น
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร
- อุทยานแห่งชาติขุนพะวอ
- อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช
- อุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ
- อุทยานแห่งชาติแม่เมย
- อุทยานแห่งชาติลานสาง
- อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า
- เขื่อนภูมิพล
การศึกษา
ระดับอุดมศึกษา
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา วิทยาเขตตาก (มีโครงการยกฐานะเป็น มหาวิทยาลัยตากสิน)
- วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ แม่สอด
- มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร แม่สอด
- วิทยาลัยชุมชนตาก
- วิทยาลัยนอร์ทเทิร์นเอเชีย
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์แม่สอด โครงการจัดตั้งร่วมของเทศบาลนครแม่สอดและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยการสนับสนุนทุนวิจัยขั้นต้นจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)
- มหาวิทยาลัยแม่สอด โครงการจัดตั้งของเทศบาลนครแม่สอด
สถาบันอาชีวศึกษา
- วิทยาลัยเทคนิคตาก
- วิทยาลัยการอาชีพแม่สอด
- วิทยาลัยการอาชีพบ้านตาก
- วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตาก
- โรงเรียนไฮเทค-เทคโนโลยี ตาก
ระดับต่ำกว่าอุดมศึกษา
ดูบทความหลักที่: รายชื่อโรงเรียนในจังหวัดตาก
- โรงเรียนตากพิทยาคม อำเภอเมืองตาก
- โรงเรียนผดุงปัญญา อำเภอเมืองตาก
- โรงเรียนสรรพวิทยาคม อำเภอแม่สอด
- โรงเรียนวังประจบวิทยาคม อำเภอเมืองตาก
- โรงเรียนวังเจ้าวิทยาคม อำเภอวังเจ้า
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
- ตราประจำจังหวัด: รูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงหลั่งทักษิโณทกบนคอช้าง
- ดอกไม้ประจำจังหวัด: ดอกเสี้ยวดอกขาว (Bauhinia sp.)
- ต้นไม้ประจำจังหวัด: แดง (Xylia kerrii)
- คำขวัญประจำจังหวัด: ธรรมชาติน่ายล ภูมิพลเขื่อนใหญ่ พระเจ้าตากเกรียงไกร เมืองไม้และป่างาม
ชาวตากที่มีชื่อเสียง
- จุมพล โพธิสุวรรณ เป็นนักหนังสือพิมพ์
- เฉลียว วัชรพุกก์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (2 สมัย) อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร และ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตาก
- ชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ภาคเหนือ)
- ถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 10 ของประเทศไทย
- เทอดพงษ์ ไชยนันทน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นบุตรของ นายเทียม ไชยนันทน์
- ธนิตพล ไชยนันทน์ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์
- พันทิวา สินรัชตานันท์ นักร้อง
- รักษ์ ตันติสุนทร เป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาลนายชวน หลีกภัย (ครม.53)
- สุนีย์ สินธุเดชะ เป็นนายกสภามหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า "อาจารย์แม่"
- เสรี วงษ์มณฑา เป็นนักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด
- อุดร ตันติสุนทร อดีตรัฐมนตรี และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตาก 5 สมัย
อ้างอิง
- ศูนย์สารสนเทศเพื่อการบริหารและงานปกครอง. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ข้อมูลการปกครอง." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dopa.go.th/padmic/jungwad76/jungwad76.htm [ม.ป.ป.]. สืบค้น 18 เมษายน 2553.
- กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/pk/pk_57.pdf 2558. สืบค้น 1 มีนาคม 2558.
ดูเพิ่ม
- รายชื่อวัดในจังหวัดตาก
- รายชื่อโรงเรียนในจังหวัดตาก
- รายชื่อสาขาของธนาคารในจังหวัดตาก
- รายชื่อห้างสรรพสินค้าในจังหวัดตาก
- รายชื่อโรงแรมในจังหวัดตาก
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของจังหวัด
- ยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดตาก
- เว็บไซต์แนะนำสถานที่พักค้างแรมสำหรับนักเดินทาง
- Welcome to Tak in Thailand (อังกฤษ)
- แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ จังหวัดตาก
- แผนที่ จาก มัลติแมป โกลบอลไกด์ หรือ กูเกิลแผนที่
- ภาพถ่ายทางอากาศ จาก เทอร์ราเซิร์ฟเวอร์
- ภาพถ่ายดาวเทียม จาก วิกิแมเปีย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)